วันจันทร์ที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

เชิญเข้าร่วมเสวนา ไทย-เขมร กับกรณีศาลโลก ที่ภูเก็ต 29-5-2554




เชิญร่วมงานเสวนา "ไทย-เขมร กับกรณีศาลโลก" 


ณ หอประชุม โรงเรียนพิบูลย์สวัสดี จ.ภูเก็ต 


วันอาทิตย์ที่ 29 พฤษภาคม 2554 


เวลา 17.00-22.00 น.ฟรีครับ





วิทยากร : อ.มล.วัลย์วิภา จรูญโรจน์ บุรุษรัตนพันธุ์


อ.ธนบูลย์  จิรานุวัฒน์


อ.ไพศาล  พืชมงคล


อดีต รมต.นายไชยวัฒน์ สินสุวงษ์




ดำเนินรายการโดย คุณทศพล แก้วทิมา


ถ่ายทอดสดทาง FMTV 
http://www.fm-tv.tv/





ส่งประกาศโดย : คุณเจริญ หมู่ขจรพันธุ์  
คณะกรรมการเครือข่ายประชาชนไทยหัวใจรักชาติ

วันเสาร์ที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

อดีต สว.การุณ ใสงาม แถลงข่าวหลังกลับจากพบคุณวีระ /พนมเปญ 21-5-2554



http://www.youtube.com/watch?v=tkaQ-267Pyo

อดีต สว.การุณ เปิดใจในรายการ "สู้เพื่อบ้านเมือง" เมื่อช่วงประมาณ 2 ทุ่ม วันที่ 21-5-2554
ก่อนจะมาช่วยงานต่อสู้ด้านกฏหมาย ของเครือข่ายคนไทยหัวใจรักชาติ
ตั้งแต่เดือน กรกฏาคม 2553 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน ก่อนหน้านั้น มีหลายฝ่ายชักชวน
ให้มาช่วยงาน ทั้งทางช่อง 13 สยามไท และทางสันติอโศก แต่ก็ปฏิเสธเรื่อยมา






คลิปการแถลงข่าว ครท. ที่เต็นท์ช่อง 13 สยามไท หน้าประตู 4 ข้างทำเนียบ
เมื่อวันที่ 21-5-2554 อดีต สว.การุณฯ  ได้แจกแจงลำดับเหตุการณ์
การดำเนินการทางคดี ช่วยเหลือคุณวีระ-ราตรี นับแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2554 เป็นต้นมา
จนสรุปรวบยอดเหตุการณ์ทราบความจริงทั้งหมดเมื่อได้พบหน้าคุณวีระ สมความคิด
ที่เรือนจำเปรย์ซอร์ กรุงพนมเปญ เมื่อวันที่ 20-5-2554 ที่ได้เดินไปตามที่ได้
ต่อรองร้องขอให้กระทรวงต่างประเทศช่วยให้ได้นำหนังสือมอบอำนาจให้
คุณการุณ ใสงาม เป็นผู้แทนคุณวีระฯ เดินเรื่องทางคดีฯ เพื่อช่วยเหลือคุณวีระฯ
และผลสรุปที่จะได้ดำเนินการต่อไปหลังจากทราบผลการเลือกตั้ง ผ่านพ้นไปแล้ว





http://www.youtube.com/watch?v=IOToQWYQnSc

ช่่วงหลังของรายการ "สู้เพื่อบ้านเมือง" อดีต สว.การุณ ใสงาม ได้กล่าวเปิดใจความรู้สึก
และสิ่งที่จะทำหลังจากนี้คือ กลับบุรีรัมย์ เพื่อไปทำนาทำไร่ต่อไป ในรายการได้เปิดสาย
ให้ผู้ชมทางบ้านได้โทรศัพท์แสดงความคิดเห็น มีหลายสายที่ผิดหวังต่อสิ่งที่เกิดขึ้น
แต่ก็ัยังไม่อยากให้ทุกคนทดท้อ ขอให้ร่วมแรงร่วมใจกันสู้ต่อไป และให้กำลังใจ อดีต สว.การุณฯ
อ.มล.วัลย์วิภา และคณะเครือข่ายคนไทยหัวใจรักชาติ ให้มีกำลังใจต่อไป

วันจันทร์ที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

เชิญร่วมชุมนุมหน้ากระทรวงการต่างประเทศ



เชิญร่วมชุมนุม หน้ากระทรวงการต่างประเทศ

เพื่อทวงคำตอบเรื่องหนังสือมอบอำนาจ
ของ คุณวีระ สมความคิด

ในวันพุธที่ 18 พ.ค.นี้เวลา 10.00 น.
รับอาสาสมัครอดอาหารประท้วง

ที่เบอร์โทร 089-4604294 begin_of_the_skype_highlighting            089-4604294      end_of_the_skype_highlighting (คุณจุ๋ม-ฝากฟ้า)


เอกสารหลักฐาน


 คลิก >> หน้าแรก หนังสือมอบอำนานายวีระ สมความคิด
คลิก >> หน้าที่ 2

(ครท.ส่งผ่าน กระทรวงต่างประเทศ เมื่อ 4-4-2554)





.
http://youtu.be/MFfwYwp8jRk

อ.มล.วัลย์วิภา จรูญโรจน์ แถลงข่าว
เมื่อวันที่ 12 พ.ค.2554
(ในนาทีที่ 8.40 ของคลิป)
กรณีหัวข้อที่ 2. เตรียมเคลื่อนไหวเพื่อกดดันรัฐบาล
ที่กระทรวงการต่างประเทศ กรณีไม่อำนวยความสะดวกให้
คุณวีระ สมความคิด ได้เซ็นต์มอบอำนาจให้คณะทนายได้ใช้ในการ
ดำเนินการทางคดีต่าง ๆ  ซึ่งถือเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ราชการ
ทำให้คุณวีระ สมความคิด ไม่ได้รับความคุ้มครองสิทธิมนุษยชนของตน


รวมทั้งกรณีการกระทำอันไม่สมควรหลายประการ กรณีทำผิดซ้ำซาก
ปล้นชาติ สมรู้ร่วมคิดยกแผ่นดินไทยให้เขมร




รายละเอียดเกี่ยวกับกิจกรรมอดอาหารประท้วง ในวันพุธที่ 18 พ.ค.54
เป็นต้นไปลองมาฟังในคลิปที่คุณพี่โย ต้นฝัน แสงอาทิตย์
ให้สัมภาษณ์น้องอเดย์ กวนมึนโฮ นักข่าวอิสระกองทัพธรรม เมื่อวานนี้(16-5-2554)


ท่านใดต้องการติดต่อพี่โย เพื่อร่วมกิจกรรมนี้ เชิญโทรไปที่ 085-8431093
และที่เบอร์โทร 089-4604294 (คุณพี่จุ๋ม-ฝากฟ้า)

------------------------------------------------


พอดีใน เฟสบุ๊คกลุ่มคนไทยหัวใจรักชาติ คุณเจริญ ได้โพสข้อความไว้ก่อนหน้านี้แล้ว
ก็เลยขออนุญาตก๊อบมาไว้รวมกันที่นี่ เผื่อใครสนิท หรือสะดวกจะติดต่อติดต่อกับ
พี่เจริญ หมู่ขจรพันธ์ ประธานจัดกิจกรรม ครท. ก็มีเบอร์โทร ที่ติดต่อได้ในข้อความดังนี้ค่ะ..



กัลยณมิตรที่เคารพ


เครือข่ายประชาชนไทยหัวใจรักชาติกำหนดให้มีการชุมนุมเพื่อทวงคำตอบที่หน้ากระทรวงการต่างประเทศในวันพุธที่ 18 พฤษภาคม 2554 ตั้งแต่เวลา 10.00 น.เป็นต้นไป


โดยจะมีอาสาสมัครมาทำการ "อดอาหาร" ในการชุมนุมครั้งนี้ด้วย ท่านที่ต้องการสมัครร่วมอดอาหารในครั้งนี้สามารถประสานได้ที่หมายเลข 089-6779882 begin_of_the_skype_highlighting            089-6779882      end_of_the_skype_highlighting การชุมนุม 7 วันแรกจะเป็นการชุมนุมแบบไปเช้าเย็นกลับ

หลังจากนั้นถ้ายังไม่ได้รับคำตอบ จะขยายผลเป็นการชุมนุมยืดเยื้อ ปักหลักพักค้าง เพื่อให้เกิดการกดดันให้กระทรวงการต่างประเทศชี้แจงว่าหนังสือมอบอำนาจที่เครือข่ายยื่นผ่านกระทรวงฯให้คุณวีระลงนามนั้นไปถึงไหนแล้ว

จึงใคร่ขอประชาสัมพันธ์ผ่านทางเมล์มายังท่านฯที่สนใจเข้าร่วมการชุมนุมได้รับทราบโดยทั่วกัน เครือข่ายฯ ยืนยันว่าจะเป็นการชุมนุมโดยสงบ อหิงสา ปราศจากอาวุธ ตามแนวทางการชุมนุมแบบ Neo Protest ครับ และขออภัยหากเมล์นี้ทำให้ท่านรู้สึกหงุดหงิด

เจริญธรรม
เจริญ หมู่ขจรพันธ์
ที่ปรึกษา
เครือข่ายประชาชนไทยหัวใจรักชาติ
๑๗ พ.ค. ๒๕๕๔

หมายเหตุ จะมีรถรับส่งบริการตั้งแต่วันที่ 18 พ.ค. เป็นต้นไปที่แยกมิสกวัน เวลา 09.30 น.


http://www.facebook.com/#!/home.php?sk=group_133309373397262&ap=1
อ้างอิง : จาก กลุ่มคนไทยหัวใจรักชาติ เฟสบุ๊ค


--------------------------------------------------------------------


ที่มา .. จากหน้าเพจกลุ่มคนไทยหัวใจรักชาติ เฟสบุ๊ค

Charoen Mookachonpan

การชุมนุมยุติลงแล้วพร้อมความสำเร็จระดับหนึ่ง กระทรวงการต่างประเทศรับปากจะประสานให้ตัวแทนเครือข่ายประชาชนไทยหัวใจรักชาติเดินทางไปพบกับคุณวีระและคุณราตรีที่เรือนจำเปรซอร์ กรุงพนมเปญ ราชอาณาจักรกัมพูชา ในวันศุกร์ที่ 20 พ.ค.2554 นี้ โดยจะมีเจ้าหน้าที่สถานฑูตไทย ณ กรุงพนมเปญ เข้าไปเป็นพยานด้วย คณะของเครือข่ายประชาชนไทยหัวใจรักชาติที่จะเดินทางไปประกอบด้วย หม่อมหลวงวัลย์วิภา จรูญโรจน์ คุณการุณ ใสงาม และคุณเจริญ หมู่ขจรพันธ์ เครือข่ายประชาชนไทยหัวใจรักชาติใคร่ขอขอบพระคุณทุกท่านที่ให้การสนับสนุน



เจริญธรรม
เจริญ หมู่ขจรพันธ์
ที่ปรึกษา
เครือข่ายประชาชนไทยหัวใจรักชาติ
18 พ.ค. 2554 17.30 น.



--------------------------------------------------------------------



คนไทยหัวใจรักชาติ บุก กต.จี้ช่วย “วีระ-ราตรี” ปักหลักม็อบจนกว่าทั้ง 2 จะเซ็นอุทธรณ์
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 18 พฤษภาคม 2554 17:30 น.


เครือข่ายคนไทยหัวใจรักชาติ บุก กต.จี้เร่งช่วย “วีระ-ราตรี” ก่อนเดินทางไปสถานทูตไทยในเขมร ขอเยี่ยม ศุกร์นี้ ยันชุมนุมต่อ 7 วัน จนกว่า 2 คนไทยจะลงนามมอบอำนาจอุทธรณ์ต่อ ด้าน กต.ยันช่วยเต็มที่ ไม่เคยทอดทิ้ง



วันนี้ (18 พ.ค.) ที่กระทรวงการต่างประเทศ เครือข่ายคนไทยหัวใจรักชาติ กว่า 80 คน นำโดย ม.ล.วัลย์วิภา จรูญโรจน์ นายไชยวัฒน์ สินสุวงศ์ และ นายสมบูรณ์ ทองบุราณ ได้เดินทางมาเรียกร้องให้กระทรวงการต่างประเทศ เร่งช่วยเหลือ นายวีระ สมความคิด และ นางราตรี พิพัฒนาไพบูรณ์ ที่ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำเปรยซอร์ กรุงพนมเปญ และขอให้ นายวีระ ได้ลงนามในเอกสารขออุทธรณ์ในคำสั่งศาลชั้นต้น ซึ่งเมื่อวันที่ 4 ก.พ.ที่ผ่านมา ได้มีการยื่นเอกสารดังกล่าวแล้วแต่ยังไม่มีความคืบหน้า ดังนั้น ในวันนี้ทางกลุ่มจึงได้เข้ายื่นหนังสือมอบอำนาจของนายวีระ ผ่าน นายทศพร มูลศาสตรสาทร ผู้อำนวยการกองกลาง นายธานี แสงรัตน ผู้อำนวยการกองเอเชีย ตะวันออก 2 และ นายพรพงศ์ กนิษฐานนท์ เจ้าหน้าที่การทูต สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงการต่างประเทศ ทั้งนี้ ได้มีการหารือเป็นเวลากว่า 2 ชม.แต่ก็ไม่ได้เปิดเผยถึงรายละเอียดในการหารือ ก่อนจะนำไปรายงานต่อ นายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ขณะที่แกนนำกลุ่มได้ขึ้นปราศรัยผ่านเครื่องขยายเสียง ว่า หากการเจรจาไม่มีความคืบหน้าก็จะมีการชุมนุมยืดเยื้อต่อไป

ด้าน ม.ล.วัลย์วิภา จรูญโรจน์ แกนนำกลุ่มเครือข่ายคนไทยหัวใจรักชาติ กล่าวระหว่างการหารือกับตัวแทนกระทรวงการต่างประเทศ ให้เร่งช่วยเหลือนายวีระ โดย ม.ล.วัลย์วิภา พร้อมด้วย นายการุณ ใสงาม จะเดินทางไปที่สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงพนมเปญ เพื่อเข้าพบ นายสมปอง สงวนบรรพ์ เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงพนมเปญ ให้อำนวยความสะดวกในการเข้าไปเยี่ยม นายวีระ ภายในเรือนจำ ในวันศุกร์นี้ (20 พ.ค.) ซึ่งก่อนหน้านี้ สถานทูตได้ประสานกับทางเรือนจำขออนุญาตให้เข้าเยี่ยมนายวีระ ได้ทุกวันศุกร์อยู่แล้ว ทั้งนี้ กลุ่มเครือข่ายจะปักหลักชุมนุมอีก 7 วัน โดยจะไม่ขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่ หรือ ปิดประตูเข้า-ออก และกีดขวางการจราจร จนกว่าจะมีความคืบหน้า และรอจนกว่าแกนนำจะเข้าเยี่ยมนายวีระ และได้ลงนามในหนังสือมอบอำนาจ ให้ นายการุณ และ ม.ล.วัลย์วิภา ดำเนินการฟ้องอุทธรณ์ศาลชั้นต้น ขณะเดียวกัน หากเรื่องดังกล่าวไม่มีความคืบหน้า แกนนำ ยืนยันว่า จะปักหลักชุมนุมถาวร

อย่างไรก็ตาม กระทรวงการต่างประเทศ ยืนยันว่า จะเร่งช่วยเหลือนายวีระ ตามกระบวนการอย่างเต็มที่ และไม่เคยทอดทิ้ง



คลิปเสวนา ไทย-เขมร กับกรณีศาลโลก ม.ธรรมศาสตร์ 14-5-2554




คลิปมีความยาวประมาณ 4 ชั่วโมง


หากต้องการดาวน์โหลดไปเผยแพร่
หรือต้องการคลิปย่อยคลิกไปที่ยูทูป รวม 14 คลิป 






วันศุกร์ที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

เชิญร่วมเสวนา.. เปิดข้อมูลใหม่...ล้างคุกรอทรราชย์ สมรู้ร่วมคิดปล้นแผ่นดินไทย..+*



.



เชิญร่วมงานเสวนาวิชาการ (ฟรี!)

เรื่อง..ไทย-กัมพูชา..กับกรณีศาลโลก
(เปิดข้อมูลใหม่...ล้างคุกรอทรราชย์ สมรู้ร่วมคิดปล้นแผ่นดินไทย)
ณ หอประชุมเล็ก มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (ท่าพระจันทร์ )

วันเสาร์ที่ ๑๔ พฤษภาคม ๒๕๕๔
เวลา ๑๓.๐๐ – ๑๗.๐๐ น.


เปิดเสวนาโดย พ่อท่านสมณะโพธิรักษ์ (แห่งสันติอโศก)

วิทยากร...ศ.ดร.สมปอง สุจริกุล

อดีตส.ว. การุณ ใสงาม

อ.ธนบูลย์ จิรานุวัฒน์

ม.ล.วัลย์วิภา จรูญโรจน์

ดำเนินรายการโดย คุณทศพล แก้วทิมา

ผู้ร่วมให้ความคิดเห็น อ.ยินดี (วัชรพงศ์ ) ต่อสุวรรณ

จัดโดย.... สถาบันไทยคดีศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ร่วมกับ..เครือข่ายประชาชนไทยหัวใจรักชาติ









ครท.แถลงข่าว 12-5-2554

.


คณะกรรมการเครือข่ายประชาชนไทยหัวใจรักชาติ(คทร.) โดย คุณสุนทร รักษ์รงค์, คุณเจริญ หมู่ขจรพันธ์ และ อ.มล.วัลย์วิภา จรูญโรจน์ แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน เมื่ออังคารวันที่ 12 พ.ค.2554 มีใจความสรุปได้ดังนี้




1. เรื่องการจัดงานเสวนา ไทย-เขมร กรณีศาลโลก (เปิดข้อมูลใหม่...ล้างคุกรอทรราชย์ สมรู้ร่วมคิดปล้นแผ่นดินไทย) ณ หอประชุมเล็ก มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (ท่าพระจันทร์ ) วันเสาร์ที่ ๑๔ พฤษภาคม ๒๕๕๔ เวลา ๑๓.๐๐ -- ๑๗.๐๐ น. ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมที่นี่..


http://chaba2012.blogspot.com/2011/05/blog-post_13.html
เชิญร่วมเสวนา.. เปิดข้อมูลใหม่...ล้างคุกรอทรราชย์ สมรู้ร่วมคิดปล้นแผ่นดินไทย..+*



2. เตรียมเคลื่อนไหวเพื่อกดดันรัฐบาล ที่กระทรวงการต่างประเทศ กรณีไม่อำนวยความสะดวกให้
คุณวีระ สมความคิด ได้เซ็นต์มอบอำนาจให้คณะทนายในการดำเนินการทางคดี ซึ่งถือเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ราชการ ทำให้คุณวีระ สมความคิด ไม่ได้รับความคุ้มครองสิทธิมนุษยชนของตน


3. ขณะนี้รัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นรัฐบาลรักษาการนับตั้งแต่วันที่ได้ประกาศยุบสภา เมื่อประมาณวันที่ 12 พ.ค. 54 เป็นต้นมา จึงไม่มีอำนาจที่จะไปดำเนินการในการเซ็นต์สัญญาใด ๆ เกี่ยวกับที่จะทำให้ประเทศไทยเสียดินแดนให้แก่กัมพูชา จึงไม่มีอำนาจที่จะดำเนินการในศาลโลก และสิ่งที่ควรจะมีการเคลื่อนไหวดำเนินการต่อไปของสมาชิกเครือข่ายประชาชนไทยหัวใจรักชาติ และคนไทยผู้ที่เห็นด้วยในแนวทางการต่อสู้ร่วมกัน

วันศุกร์ที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

ธรรมนูญของศาลโลก บทบัญญัติที่ 60-61.

STATUTE
OF THE
INTERNATIONAL COURT OF JUSTICE
TABLE OF CONTENTS


The Article 60
judgment is final and without appeal. In the event of dispute as to the meaning or scope of the judgment, the Court shall construe it upon the request of any party.

Article 61
1. An application for revision of a judgment may be made only when it is based upon the discovery of some fact of such a nature as to be a decisive factor, which fact was, when the judgment was given, unknown to the Court and also to the party claiming revision, always provided that such ignorance was not due to negligence.
2. The proceedings for revision shall be opened by a judgment of the Court expressly recording the existence of the new fact, recognizing that it has such a character as to lay the case open to revision, and declaring the application admissible on this ground.
3. The Court may require previous compliance with the terms of the judgment before it admits proceedings in revision.
4. The application for revision must be made at latest within six months of the discovery of the new fact.
5. No application for revision may be made after the lapse of ten years from the date of the judgment.



จดหมายเปิดผนึก เครือข่ายคนไทยหัวใจรักชาติ 6-4-2554.♥


 แกนนำเครือข่ายคนไทยหัวใจรักชาติ แถลงข่าวโดย ฝากฟ้า นาวาบุญนิยม  6 พ.ค.2554 เวลา 15.56 น.



เชิญคลิกอ่านรายละเอียด ดังนี้..
  1. วันที่ 6 พค 54 คทร.แถลงข่าวกรณีดำเนินการเกี่ยวกับข้อพิพาทเขาพระวิหารในศาลโลก.mp3 
คลิก play เพื่อรับฟังเสียงการแถลงข่าว

----------------------------------------------------------------------------------------------------




จดหมายเปิดผนึก
กรณี การดำเนินการเกี่ยวกับข้อพิพาทเขาพระวิหารในศาลโลก
๖ พฤษภาคม ๒๕๕๔


เรียน พี่น้องประชาชนชาวไทยที่เคารพ

สืบเนื่องจากรัฐบาลภายใต้การนำของพรรคประชาธิปัตย์สมัยนายชวน หลีกภัย ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้มีการลงนามบันทึกความเข้าใจที่รู้จักกันในนาม MOU ปี พ.ศ. 2543 นำไปสู่การยึดถือเอาแผนที่ 1:200,000 มาใช้เป็นกรอบการแก้ไขปัญหาของคณะกรรมการร่วมเขตแดนทางบกไทย-กัมพูชาและเป็นกรณีพิพาทระหว่างราชอาณาจักรไทยกับราชอาณาจักรกัมพูชา เพราะมีความพยายามนำกรอบดังกล่าวมาพิจารณากำหนดการแบ่งเขตแดนระหว่างไทย-กัมพูชารวมถึงบริเวณเขาพระวิหารด้วยทั้ง ๆ ที่ในความเป็นจริง MOU 43  เป็นเพียงข้อพิจารณาเบื้องต้นเพื่อนำไปสู่ข้อสัญญาที่ จะต้องนำมาสู่การพิจารณาในความตกลงสองฝ่าย และเป็นโมฆะ เนื่องจากขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญของทั้งสองประเทศ

รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กลับดำเนินการในทางบริหารเป็นการแสดงเจตนาแห่งรัฐต่อทางการกัมพูชา และหรือ แถลงต่อรัฐสภาของไทยโดยเพิกเฉยต่อความถูกต้องและความชอบด้วยรัฐธรรมนูญของ MOU 43 และแสดงต่อสาธารณะว่ามีความถูกต้องใช้เป็นแนวทางดำเนินการทางนโยบาย เช่น ใช้เป็นข้ออ้างว่าเพื่อป้องกันไม่ให้ประเทศอื่นมาแทรกแซง เพื่อให้การแก้ปัญหาเป็นเรื่องของสองประเทศ เพื่อหยุดยั้งการปะทะหรือก่อสงคราม หรือ เพื่อให้คณะกรรมการหรือกลไกคณะกรรมการร่วม ฯ ( JBC )  คงดำรงอยู่ต่อไป  

ประชาชนหลายฝ่ายได้ร่วมกันคัดค้าน ต่อต้าน และให้ยกเลิก MOU 43 เพราะจะเป็นเหตุนำไปสู่การสูญเสียดินแดน 4.6 ตารางกิโลเมตร และตลอดแนวเขตแดน แต่ก็ได้รับการปฏิเสธจากรัฐบาล จนปัญหาลุกลามไปสู่การใช้กำลังทหารและอาวุธสงคราม ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ต้องสูญเสียเลือดเนื้อ ชีวิต และโอกาสทางเศรษฐกิจมาจนถึงปัจจุบัน และนำไปสู่การเรียกร้องของราชอาณาจักรกัมพูชาต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือศาลโลก และ รัฐบาลนาย  อภิสิทธิ์ฯ ได้ว่าจ้างทนายความชาวฝรั่งเศส รวมทั้งคนไทยเพื่อเตรียมการต่อสู้คดี

เครือข่ายประชาชนไทยหัวใจรักชาติ ในฐานะภาคประชาชนที่ให้ความสนใจติดตามเรื่องนี้ตลอดมาเห็นพ้องร่วมกันว่า การดำเนินการต่อสู้คดีของราชอาณาจักรไทย จากการยื่นคำร้องของราชอาณาจักรกัมพูชาครั้งนี้ หากยังประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงและขาดความรอบคอบระมัดระวังอาจนำประเทศเข้าสู่ความเสียหายอย่างใหญ่หลวงเพราะจะนำไปสู่การสูญเสียดินแดนและบูรณภาพเหนืออธิปไตยของประเทศ ดังมีประเด็นสาระสำคัญต่อไปนี้

                         ๑. ความรอบคอบรัดกุมทางกฎหมายระหว่างประเทศ ผู้ที่จะเข้ามาดำเนินการในเรื่อง หรือคดีดังกล่าวนี้ ต้องเป็นผู้รู้แจ้งแทงตลอดและมีความเชี่ยวชาญในกฎหมายระหว่างประเทศอย่างแท้จริง เพราะการต่อสู้คดีนี้เป็นกลเกมของผู้หวังผลประโยชน์ทางการเมือง หรือเป็นการเล่นละครตบตาชาวโลก ทั้งนี้เพราะเรากำลังเอาผลประโยชน์ของประเทศอันมหาศาลในอ่าวไทยมูลค่าหลายล้านล้านบาทเข้าไปเสี่ยงได้เสี่ยงเสียอย่างง่ายๆ  เพราะเชื่อได้ว่าการฟ้องคดีของฝ่ายกัมพูชาในศาลโลกเป็นหนึ่งในแผนการสกปรกที่บรรษัทข้ามชาติเกี่ยวกับพลังงานได้มีส่วนร่วมด้วย   

                                ๒. เขตอำนาจในการพิจารณาคำร้อง และ ความสามารถ  การฟ้องคดีนี้ในศาลโลกของฝ่ายกัมพูชาโดยการนำเอาราชอาณาจักรไทยไปเป็นจำเลยในศาลโลก เป็นการตั้งเรื่องฟ้องคดีใหม่(ให้ดูเอกสารเผยแพร่ต่อสาธารณชนแนบท้ายจดหมายเปิดผนึกนี้ ลำดับที่ ๑) หรือเป็นการขอให้ศาลโลก ทบทวนคำพิพากษาของศาลโลก ที่พิพากษา เมื่อวันที่ ๑๕ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๐๕  (ให้ดูธรรมนูญของศาลโลกในบทบัญญัติที่ ๖๑ ข้อ ๔ และข้อ ๕ แนบท้ายจดหมายนี้) แม้คำฟ้องของฝ่ายกัมพูชา จะอ้างอิงการตีความตามคำพิพากษาของศาลโลกโดยอ้างบทบัญญัติที่ ๖๐ของธรรมนูญศาลโลกตอนท้ายบทบัญญัติ  (ให้ดูธรรมนูญศาลโลกแนบท้ายจดหมายนี้)   จะเป็นการตีความถ้อยคำในคำวินิจฉัยของศาลโลก หรือ เป็นการทบทวนคำพิพากษาของศาลโลก ซึ่งจะขึ้นอยู่ กับดุลพินิจขององค์คณะผู้พิพากษาของศาลโลก ฝ่ายไทยต้องโต้แย้งในประเด็นนี้ให้แจ้งชัด และการโต้แย้งดังกล่าวก็ต้องมิใช่การยอมรับอำนาจศาลโลกในการพิจารณาและพิพากษาคดีนี้

                   เป็นที่ทราบกันดีโดยแน่ชัดว่า เมื่อประเทศไทยแพ้คดีปราสาทพระวิหารในปีพ.ศ. ๒๕๐๕ ราชอาณาจักรไทยภายใต้การบริหารของจอมพล สฤษดิ์  ธนะรัตน์ นายกรัฐมนตรี ได้ประกาศถอนตัวจากการเป็นชาติภาคีสมาชิกของธรรมนูญศาลโลกในปีพ.ศ.๒๕๐๖ – พ.ศ.๒๕๐๗รัฐไทยไม่มีพันธกรณีที่จะต้องตกอยู่ในอำนาจการบังคับของศาลโลกแล้ว


การที่กัมพูชานำเรื่องไปสู่ศาลโลก โดยอ้างถึงการขอให้ศาลตีความในคำพิพากษา ซึ่งผ่านมาเกือบ 50 ปี แล้วจึงไม่มีเหตุผลและไม่มีประเด็นตามข้ออ้างที่จะนำคดีไปสู่ศาลโลกได้แต่อย่างใด   หากมีการดำเนินการใดๆ ให้รัฐไทยต้องตกอยู่ในอำนาจศาลโลก ผู้มีส่วนร่วมในการกระทำทั้งหมดต้องเข้าข่ายของการกระทำความผิดอาญา ในข้อหาความมั่นคงของรัฐภายนอกราชอาณาจักร (อ้างอิงคำพิพากษาของศาลโลกในคดี Anglo-Iranian Oil v. Iran)

ศาลโลกไม่อาจดำเนินคดี ระหว่างกัมพูชา – ไทย ให้สมบูรณ์ และบริบูรณ์ต่อไปได้ เพราะจะต้องได้รับความยินยอมจากฝ่ายไทยเสียก่อน กรณีนี้มิใช่การตีความ สนธิสัญญา กฎหมายระหว่างประเทศ หรือตามหลักกฏหมายระหว่างประเทศทั่วไป ( The General Rules of International Law) แต่อย่างใด หากฝ่ายไทย ยกข้อคัดค้านโดยแจ้งชัดและเป็นที่ประจักษ์แล้ว ในเรื่องอำนาจการพิจารณาและพิพากษาคดีของศาลโลก ศาลโลกก็จะต้องชี้ขาดในประเด็นปัญหานี้ก่อน  (ให้พิจารณาเกี่ยวกับคดี Iceland v. Great Britain,  Iceland v. Republic of Germany ในเรื่องการจับปลาในเขตทะเลเหนือ) ซึ่งศาลโลกยอมรับในเรื่องประเด็นข้อต่อสู้ของ Iceland เพียงแต่ไม่อาจทำตามข้อโต้แย้งของ Iceland ได้ตลอด เพราะ Iceland ไปทำข้อตกลงกับอังกฤษและเยอรมันไว้ล่วงหน้า ก่อนถูกดำเนินคดีหลายสิบปี ซึ่งคดีนี้อาจนำมาเปรียบเทียบกับกรณี MOU 43 ได้ในฐานะคดีที่ใกล้เคียงอย่างยิ่ง

                             ๓. การตกหลุมพรางโดยรีบร้อนเข้าดำเนินการต่อสู้คดีของราชอาณาจักรไทยจะเป็นการเข้าไปยอมรับฐานะเป็นจำเลยในคดีปัจจุบัน จึงต้องพิจารณาอย่างถ่องแท้ การที่จะเข้าไปโต้แย้งสิทธิในการพิจารณาพิพากษาคดีของศาลโลก ที่ราชอาณาจักรไทยประกาศไม่ยอมรับอำนาจศาลโลกในปีพ.ศ.๒๕๐๖ – พ.ศ.๒๕๐๗ ดังปรากฏในข้อที่ ๒ ข้างต้น หรือจะเป็นการเข้าไปเป็นจำเลยในศาลโลกโดยถือวิถีทางปฏิบัติ หรือ โดยปริยาย ที่จะเข้าไปเป็นจำเลยในคดีโดยไม่โต้แย้งสิทธิของศาลโลก ในเรื่องอำนาจพิจารณาและพิพากษาคดี หรือการเข้าไปรับฐานะการเป็นจำเลยโดยไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ จึงเป็นปัญหาหลักการ และเป็นเรื่องที่สำคัญยิ่ง คนไทยและราชอาณาจักรไทย ต้องไม่ตกหลุมพราง  มิฉะนั้นบริษัทค้าน้ำมันข้ามชาติ กับบรรดานักการเมืองไทยที่ขายชาติ            ผู้ละโมบของเราเอง จะนำเอาการพ่ายแพ้คดีในคดีปัจจุบัน มาเป็นข้ออ้างต่อพี่น้องประชาชนไทยว่า “ อย่ามาต่อต้าน MOU 43 JBC หรือ GBC อีกต่อไปเลย ทั้งนี้เพราะเราแพ้คดีนี้แล้ว ผมในฐานะผู้บริหารประเทศต้องปฏิบัติตามคำพิพากษาศาลโลก ”  พี่น้องชาวไทย ต้องตระหนักในประโยคคำพูดนี้ให้จงหนัก  อย่ายอมให้เกิดการสมคบกันเพื่อผลประโยชน์ในระดับนานาชาติเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า กับประเทศที่รักยิ่งของเราอีกต่อไป ต้องหันมาให้ความร่วมมือกันในทุกๆทาง เพื่อเปิดโปงแผนการอันชั่วร้ายนี้ให้โลกรับรู้  และให้โลกประณาม 



คดีนี้ จะต้องไม่ให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย เหมือนกับคดีปราสาทพระวิหารในอดีตอีกต่อไป

                                                    
                                                 เครือข่ายประชาชนไทยหัวใจรักชาติ